หลายคนอยากเลี้ยงกุ้งแคระ แล้วเจอคำถามที่ถามกันบ่อยที่สุด คือ ต้องเตรียมอะไรบ้าง? ต้องทำอย่างไรบ้าง?
วัน นี้เพื่อนๆ ที่คิดจะเริ่มเปลี่ยนใจมาลองเลี้ยงกุ้งตัวเล็กๆ น่ารักๆ ต้องอ่านกระทู้ค่ะ แต่ขอบอกก่อนนะคะว่าเริ่มต้นเลี้ยงต้องหัดเลี้ยงพวกเชอรี่ บลู อะไรหยั่งงี้ไปก่อน แล้วค่อยไต่อันดับเป็น เรดบี เพราะเชอรี่เป็นกุ้งที่เลี้ยงง่าย ออกลูกง่าย ที่สำคัญประหยัดงบประมาณในกระเป๋าเราที่สุด
เริ่มจากอุปกรณ์ธรรมดาๆ แบบสุดๆ แต่มีความจำเป็นมากที่ต้องเตรียมก่อนซื้อเจ้าเชอรี่มาเลี้ยง
1. ตู้กระจก
ควรมีขนาด ตั้งแต่ 12 นิ้วขึ้นไป แต่ต้องดูจำนวนกุ้งที่จะซื้อมาด้วย ถ้าซื้อมา 10 ตัว ก็พออยู่ได้ แต่ถ้าตู้ใหญ่ 10 ตัวดูจะน้อยและโล่งเกินไป จากคำบอกเล่าของเพื่อนๆ ซื้อตู้ 32 นิ้วไป แล้วซื้อเชอรี่มา 20 ตัว บอกว่า "พอเทกุ้งลงไป มันหายไปไหนหมดวะ? มองไม่เห็นเลย" และแล้วก็ต้องซื้อกุ้งมาเพิ่มอีก อิอิ
2. หินรองพื้น
จะเป็นหินกรวด หินแม่น้ำ (หรือถ้าไฮโซก็อาจจะใช้ดินภูเขาไฟก็ได้ไม่ว่ากัน) แต่แนะนำว่า ถ้าเพื่อนๆ ใช้หินนิลสีดำสนิท จะทำให้กุ้งเชอรี่สีแดงสด ขับผิวอันแดงแจ๋ออกมาเด่นและสวยงามมากกว่าหินสีอื่นๆ
3. กรองแขวน
หาซื้อได้ตาม ร้านอมรค่ะ ราคาถูก อันเล็ก 120 อันใหญ่ 150 เพื่อนๆ ที่อยู่เชียงใหม่ให้ไปซื้อที่อมรใหญ่ที่อยู่ในคูเมือง และอมรเล็กที่คาร์ฟูร์ แถมร้านนี้มีอุปกรณ์เสริมอีกหลายอย่าง เข้าไปแล้วเพลินดีค่ะ เลือกซื้อมาปรับแต่งตู้ให้น้องกุ้งตามใจชอบ
4. โคมไฟ (รูปตู้อคลีลิคข้างบน มีโคมไฟร้านอมรอยู่ค่ะ)
ก็ อีกนั่นแหละ ในร้านอมรเช่นเดียวกัน จำได้ว่าตอนนั้นซื้อมาอันละ 300 บาทค่ะ ทำไมต้องมีโคมไฟ ก็เพื่อที่จะใช้เลี้ยงมอสค่ะ เพราะมอสต้องใช้แสงในการเจริญเติบโตและในตู้กุ้งแคระต้องมีมอสด้วย และอีกทางเลือกหนึ่ง ที่บ้านใช้หลอดหนีบประหยัดสุดๆ อัน ร้อยกว่าบาท แต่ว่าดูไม่ค่อยสวยงาม สำหรับตู้เล็กๆ ก็สามารถใช้ได้ค่ะ
5. มอส
หาซื้อได้ตามร้านขาย ไม้น้ำหรือร้านขายปลา เชียงใหม่เท่าที่เช็คราคามา จาวามอสขอนเล็ก 150 บาท ซื้อมาซักขอนสองขอนแล้วแต่จะจัดตู้ให้สวยงาม ขอบอกว่า...อย่าเอาราคามอสที่เชียงใหม่ไปเปรียบเทียบราคาที่กรุงเทพค่ะ เพราะว่าเชียงใหม่หาซื้อได้ยาก(ทำไมไม่รู้เหมือนกัน) และต้องมีค่าขนส่งบวกเข้าไปอีก ให้ร้านค้าเค้าไปเถอะ ซื้อขอนสองขอนก็อย่าไปติดใจอะไรมากค่ะ ปวดหัวเปล่าๆ (เห็นเพื่อนๆ บ่นเรื่องราคากันเยอะมากค่ะ ใจเย็นๆ)
ที่ต้องเลี้ยงมอสด้วยนั้นเพราะว่า กุ้งแคระทั้งหลายจะใช้เป็นทั้งที่หลบซ่อนและเป็นอาหารโปรดด้วยค่ะ กุ้งมักจะไปเกาะเก็บกินอาหารตามดงชวามอส การที่ใส่ขอนไม้ลงไปในตู้เลี้ยงนั้นจะช่วยเรื่องสภาพน้ำให้เป็นกรดอ่อนๆ และเป็นแหล่งอาหารอย่างดีสำหรับกุ้งแคระ เพราะว่ากุ้งแคระชอบไปเกาะแทะขอนไม้มากกว่าจะหาอาหารกินตามพื้นโล่งๆ ค่ะ
6. เตรียมน้ำก่อนไปซื้อน้องกุ้ง
ควร เตรียมน้ำสะอาดและซื้ออุปกรณ์ต่างๆ มาจัดเตรียมที่อยู่ให้น้องกุ้งซะก่อน แล้วเดินระบบทิ้งไว้อย่างน้อย 1 สัปดาห์ค่ะ ยิ่งถ้ามีปลาเล็กเลี้ยงไว้ก่อนจะยิ่งดี พอซื้อกุ้งมาแล้วค่อยตักปลาออก
7. อาหาร
กุ้ง จะไม่กินอาหารตามผิวน้ำค่ะ ดังนั้นเราต้องซื้ออาหารเม็ดจมให้เค้ากิน ตอนนี้มีอาหารสำหรับน้องกุ้งแล้ว ทั้งยี่ห้อ Hikari และ Kanshou แต่ราคาสูงอยู่เหมือนกัน ไม่สามารถบอกราคาได้ค่ะ เพราะไม่เคยใช้ อิอิ ที่ใช้อยู่ก็จะเป็นฮิคาริซองดำกับฮิคาริซากิ ส่วนเพื่อนๆ จะใช้อาหารแพะ หรืออาหารกุ้งกุลาเลยก็ได้ค่ะอย่างหลังนี่ถูกหน่อย คาดว่าเชียงใหม่ไม่น่าเเกิน 40 บาท น้องกุ้งชอบกินด้วย ว่าจะไปหาซื้ออยู่เหมือนกัน นอกเหนือจากอาหารเม็ดแล้ว น้องกุ้งยังชอบกินผัก เช่น คะน้า ปวยเล้ง เอามาลวกให้เปื่อยหน่อยๆ เค้าจะกินได้ง่ายขึ้นค่ะ แถมกินผักแล้วรู้สึกว่ามันแดงขึ้นด้วยนะคะ (ไม่รู้คิดไปเองเป่า)
สำหรับผู้เริ่มเลี้ยงกุ้งแคระ ขอแนะนำบทความ "การเลี้ยงดู และเพาะพันธุ์กุ้งแคระ" ค่ะ
เชิญคลิ๊กอ่านตามลิงค์
http://www.kapank.com/pets/contents/content_10/content_10.html
มีปัญหาสอบถามได้ตลอดเวลาค่ะ....
บทความจากน้องแป๋ง kapank.com
2550/06/29
2550/06/28
รู้จักกับวัสดุกรองที่ใช้ในระบบกรอง
วัสดุกรองที่ใช้ในระบบกรอง wet / dry
กรวดปะการัง - สำหรับเป็นที่ยึดเกาะของแบคทีเรีย
เซรามิกส์ริงส์ - สำหรับเป็นที่ยึดเกาะของแบคทีเรีย
ไบโอบอลล์ - สำหรับช่วยกระจายน้ำเพิ่มออกซิเจนและเป็นที่ยึดเกาะของแบคทีเรีย
ใยแก้ว - สำหรับดักฝุ่น ผงหรือขี้ปลา
ใยหยาบ - สำหรับดักฝุ่น ผงหรือขี้ปลา
ถ่านคาร์บอน - สำหรับดูดกลิ่น สีและสารพิษ
ซีโอไลท์ - สำหรับดูดสารพิษและเมือกปลา
หินภูเขาไฟ - สำหรับดูดสารพิษและช่วยปรับสภาพน้ำ
*** วัสดุอื่นที่มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกัน ใยบวบ ฟองน้ำ อิฐมอญหรือหินต่างๆ
กรวดปะการัง - สำหรับเป็นที่ยึดเกาะของแบคทีเรีย
เซรามิกส์ริงส์ - สำหรับเป็นที่ยึดเกาะของแบคทีเรีย
ไบโอบอลล์ - สำหรับช่วยกระจายน้ำเพิ่มออกซิเจนและเป็นที่ยึดเกาะของแบคทีเรีย
ใยแก้ว - สำหรับดักฝุ่น ผงหรือขี้ปลา
ใยหยาบ - สำหรับดักฝุ่น ผงหรือขี้ปลา
ถ่านคาร์บอน - สำหรับดูดกลิ่น สีและสารพิษ
ซีโอไลท์ - สำหรับดูดสารพิษและเมือกปลา
หินภูเขาไฟ - สำหรับดูดสารพิษและช่วยปรับสภาพน้ำ
*** วัสดุอื่นที่มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกัน ใยบวบ ฟองน้ำ อิฐมอญหรือหินต่างๆ
ระบบกรองในตู้ปลา-กุ้ง
ในปัจจุบันเครื่องกรองน้ำที่ใช้กันอยู่กับตู้เลี้ยงปลา-กุ้ง มีหลากหลายรูปแบบ ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่มีอยู่เพียงแผ่นพลาสติกกรองใต้ทรายเครื่องกรองเดี๋ยวนี้... มีหลายหลายรูปแบบที่เราสามารถจะเลือกได้ตามความเหมาะสมกับตู้ปลาและสภาพการใ ช้งานของเราไม่ว่าจะเป็นแบบติดนอกตู้ ในตู้ มุมตู้ ข้างๆตู้ บนตู้ ล่างตู้ แขวนตู้แต่จะว่าไปแล้ว เราก็สามารถที่จะแบ่งจำแนกเครื่องกรองโดยทั่วๆไป ออกเป็นประเภทใหญ่ๆได้ 3 ประเภทด้วยกันคือ
1. เครื่องกรองแบบ Mechanical เป็นการแยกของแข็งออกจากของเหลว โดยที่ของแข็งต้องไม่ละลายในของเหลวอันนี้ หลักการจะเป็นลักษณะที่กรองได้เฉพาะตะกอนแขวนลอยที่ปะปนอยู่ในน้ำ โดยผ่านวัสดุกรอง อาทิ ฟองน้ำใยแก้ว ใยโพลิเมอร์ ใยสังเคราะห์ต่างๆ
2. เครื่องกรองแบบ Chemical อันนี้เราจะใช้ในการดักจับเคมีที่เจือปนในน้ำ สารอนินทรีย์ต่างๆ เช่น คลอรีน / Chlorine (Cl) ฟอสฟอรัส (P4)และไนโตรเจน (N2) มักจะนิยมใช้ในการบำบัดน้ำแบบเฉียบพลัน (Shock Treatment) เช่น การใช้ถ่านคาร์บอนดูดซึมคลอรีน หรือสารเคมีพวกยาต่างๆ การใช้เคมีตัวนึงไปจับเคมีอีกตัวนึงที่เจือปนอยู่ในน้ำ ซึ่งปกติแล้วการบำบัดน้ำแบบเฉียบพลัน จะใช้เรียกการเติมสารเคมีใดๆในปริมาณที่มากกว่าปกติลงไปในน้ำเพื่อบำบัดปรับ สภาพน้ำเพื่อทำลายสารปนเปื้อนอินทรีย์ (Organic Contaminants)และทำการออกซิไดซ์ แอมโมเนีย สารประกอบไนโตรเจนแต่ในที่นี้ผมคิดว่าน่าจะใช้กับการกระทำใดๆ ที่เป็นการฟื้นฟูสภาพน้ำแบบทันทีทันใด
3. เครื่องกรองแบบ Biological การสร้างระบบกรองขึ้นมาภายใต้การทำงานของแบคทีเรียที่มีชีวิต โดยมีหลักการที่ว่า แบคทีเรียที่ใช้นั้น จะเป็นแบคทีเรียฝ่ายดี ที่จะคอยจัดการกับสิ่งสกปรก (รายละเอียดหลักการทำงานจะอธิบายอีกที ) ให้หมดสิ้นไปจากน้ำ โดยการย่อยสลายของเสีย
1. เครื่องกรองแบบ Mechanical เป็นการแยกของแข็งออกจากของเหลว โดยที่ของแข็งต้องไม่ละลายในของเหลวอันนี้ หลักการจะเป็นลักษณะที่กรองได้เฉพาะตะกอนแขวนลอยที่ปะปนอยู่ในน้ำ โดยผ่านวัสดุกรอง อาทิ ฟองน้ำใยแก้ว ใยโพลิเมอร์ ใยสังเคราะห์ต่างๆ
2. เครื่องกรองแบบ Chemical อันนี้เราจะใช้ในการดักจับเคมีที่เจือปนในน้ำ สารอนินทรีย์ต่างๆ เช่น คลอรีน / Chlorine (Cl) ฟอสฟอรัส (P4)และไนโตรเจน (N2) มักจะนิยมใช้ในการบำบัดน้ำแบบเฉียบพลัน (Shock Treatment) เช่น การใช้ถ่านคาร์บอนดูดซึมคลอรีน หรือสารเคมีพวกยาต่างๆ การใช้เคมีตัวนึงไปจับเคมีอีกตัวนึงที่เจือปนอยู่ในน้ำ ซึ่งปกติแล้วการบำบัดน้ำแบบเฉียบพลัน จะใช้เรียกการเติมสารเคมีใดๆในปริมาณที่มากกว่าปกติลงไปในน้ำเพื่อบำบัดปรับ สภาพน้ำเพื่อทำลายสารปนเปื้อนอินทรีย์ (Organic Contaminants)และทำการออกซิไดซ์ แอมโมเนีย สารประกอบไนโตรเจนแต่ในที่นี้ผมคิดว่าน่าจะใช้กับการกระทำใดๆ ที่เป็นการฟื้นฟูสภาพน้ำแบบทันทีทันใด
3. เครื่องกรองแบบ Biological การสร้างระบบกรองขึ้นมาภายใต้การทำงานของแบคทีเรียที่มีชีวิต โดยมีหลักการที่ว่า แบคทีเรียที่ใช้นั้น จะเป็นแบคทีเรียฝ่ายดี ที่จะคอยจัดการกับสิ่งสกปรก (รายละเอียดหลักการทำงานจะอธิบายอีกที ) ให้หมดสิ้นไปจากน้ำ โดยการย่อยสลายของเสีย
ยินดีต้อนครับสู่ Blog ชาวกุ้งแคระเชียงใหม่
สวัสดีเพื่อนๆ เว็บ Blog แห่งนี้ยินดีต้อนรับเพื่อนๆ ทุกคนนะครับ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)